น้ำหอมเสมือนศิลปะ

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนเปลี่ยนเปลี่ยนไม่ว่าจะคงอยู่หรือหายไปก็ตาม น้ำหอมก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่ไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา

แต่กับผนวกน้ำหอมกับศิลปะเข้าด้วยกันซึ่งกลิ่นน้ำหอมจะขึ้นอยู่กับจมูกของแต่ละบุคคล ตัวกลิ่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในการนำพาคุณเดินทางไปยังที่สงบเพียงเท่านั้น  

น้ำหอมอยู่คู่ขนานกับวิวัฒนาการของมนุษยชาติมาตลอด โดยเฉพาะในสมัยโบราณถือว่าเรื่องความรู้สึกของการดมกลิ่นเป็นครั้งแรกนั้นสำคัญ

โดยกลิ่นที่ดมจะให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มใหม่และการเปลี่ยนแปลงหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นเครื่องหมายของความเป็นอมตะ

เพราะน้ำมันหอมถูกใช้ในพิธีการทำมัมมี่ โดยในสมัยโบราณเชื่อว่าชีวิตหลังความตายหากใส่น้ำหอมลงไปในโลงด้วยจะทำให้พระเจ้ายอมรับพวกเขาเค้าสู่อ้อมกอด ชาวอียิปต์โบราณจึงพรมน้ำหอมของพวกเขาด้วยน้ำมันหอมระเหยเข้ากับผมและส่วนต่างๆ

ซึ่งกลิ่นจะกระจายอย่างอ่อนโยน เปรียบเสมือนศิลปะโบราณที่ฟุ้งกระจายและคงสืบต่อกันมายาวนาน มีนักปรัชญาได้กล่าวไว้ว่ากลิ่นเป็นแหล่งความรู้ที่กระตุ้นความคิดเช่นเดียวกับเพลงแฟชั่นและศิลปะที่เจริญรุ่งเรืองในยุคอุตสาหกรรมของศตวรรษที่ 20 น้ำหอมตามกระแสของความคืบหน้าประดับประดาชีวิตของผู้หญิงทุกวันอย่างไม่เคยหยุดหย่อนตราบจนยุคนี้